ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 1,400 ล้านบาท โดยคาดว่าจะเติบโตประมาณ 15 - 18% จากปี 2566 โดยเติบโตจากธุรกิจเดิมประมาณ 10 - 12% และเติบโตผ่านการเพิ่มแบรนด์ใหม่ ได้แก่ Poltrona Frau, Frette และ Haworth และสาขาที่กำลังจะเปิดในปี 2024 ประมาณ 5 - 6%

เติบโตประมาณ 15 - 25% โดยการเพิ่มแบรนด์สินค้าใหม่ๆในระดับ Luxury การขยายตลาดที่กว้างขึ้นทั้งด้านดีไซน์และราคา รวมถึงการนำสินค้าใหม่ๆ ได้แก่ เฟอร์นิเจอร์สำนักงาน ผ่านการเปิดโชว์รูมใหม่จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ โชว์รูมภูเก็ต โชว์รูมทองหล่อซอย 5 และโชว์รูมทองหล่อซอย 1 รวมถึงการนำการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกมาใช้ทำการตลาดและขยายฐานลูกค้าปัจจุบัน

บริษัทฯ แบ่งกลุ่มลูกค้าเป็น 2 ประเภท

1. กลุ่มลูกค้าทั่วไป (Business to Customer: B2C)

   กลุ่มลูกค้าที่เลือกซื้อสินค้าเพื่อประโยชน์ใช้สอย ซึ่งให้ความสำคัญด้านการออกแบบ (Design) ที่สวยงาม และเป็นเอกลักษณ์ เช่น กลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง และให้ความสำคัญกับรูปแบบการใช้ชีวิตที่มีรสนิยม

2. กลุ่มลูกค้าธุรกิจ (Business to Business: B2B)

   กลุ่มลูกค้าที่ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับงานโครงการ เช่น บ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม สำนักงาน โรงแรม โรงพยาบาลหรือหน่วยงานด้านสุขภาพ และฟิตเนส เป็นต้น

1. บริษัทฯ เป็นตัวแทนในการนำเข้าและจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยแบรนด์ชั้นนำระดับลักซูรี่จากต่างประเทศ
2. บริษัทฯ สามารถนำเสนอสินค้าที่หลากหลายและครอบคลุมทุกกระบวนการในการสร้างพื้นที่ในฝันทุกรูปแบบ
3. บริษัทฯ มีโชว์รูมบนทำเลที่มีศักยภาพในการแข่งขัน
4. บริษัทฯ มีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งจากการประกอบธุรกิจนี้มามากกว่า 25 ปี
5. บริษัทฯ มีทีมผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญในธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ระดับลักซูรี่ในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน

ไม่มี Seasonal

บริษัทฯ เป็นตัวแทนนำเข้าและจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย จำนวน 16 แบรนด์ อาทิ Calligaris, Cassina, Christopher Guy, Dada, Frette, Galotti&Radice, Giorgetti, Limited Edition, Malerba, Molteni&C, Natuzzi Italia, Poltrona Frau, Robina, Rolf Benz, Sidea และ Technogym เป็นต้น และเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าทั่วไป จำนวน 13 แบรนด์

บริษัทฯ มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของกำไรสุทธิจากงบเฉพาะกิจการภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และเงินสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของบริษัทฯ อย่างไรก็ตาม การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจ กระแสเงินสดของบริษัทและแผนการลงทุนของบริษัทและบริษัทในเครือ (หากมี) ตามความจำเป็น และความเหมาะสมอื่นๆ ตามที่คณะกรรมการบริษัทเห็นสมควร

ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจและแนวโน้มของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ในภาพรวมจะอยู่ในช่วงชะลอตัว แต่กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ระดับ Luxury ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เห็นได้ชัดเจนจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของอสังหาริมทรัพย์ระดับ Luxury ตั้งแต่ช่วงปี 2022 เป็นต้นมาและยังคงต่อเนื่องมาถึงปี 2023 โดยแนวโน้มปี 2024 คาดว่าจะยังเติบโตต่อไป อาทิเช่น โครงการบ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม หรืออาคารสำนักงาน สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยบวกให้บริษัทฯ ที่นำเสนอผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองประสบการณ์การใช้ชีวิตระดับ Luxury